Coffee

วันนี้ได้อ่าน The flatmate ใน BBC ซึ่งเป็นตอนที่เกี่ยวกับกาแฟ แล้วก็มีศัพท์ที่เราคุ้นหูมานาน เช่น espresso, latte, cappuccino ทำให้เกิดความสงสัยขึ้นนาน เนื่องจากไม่ได้เป็นคนกินกาแฟอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจ แล้วก็เป็นทีมาในการตามหาคำตอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเท่าไร แต่เนื่องจากกาแฟเป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่แพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว อันทำให้คนเป็นเจ้าของธุรกิจคนไทยหลายคนได้ร่ำรวยไปตามๆ กัน ดังนั้นถ้าเราจะคุยกับฝรั่งสักคนเกี่ยวกับเรื่องกาแฟ ถ้าเราพอมีความรู้บ้าง ก็จะช่วยให้การคุยสนุกขึ้นนะค่ะ

เรื่องแรก ก็ต้องทำความรู้จัก espresso กันก่อน เพราะว่าเป็นตัวตั้งต้นของเมนูกาแฟอื่นๆ เลย espresso เกิดขึ้นครั้งแรกที่ อิตาลี ค่ะโดยเป็นการชงกาแฟ จากเมล็ดกาแฟที่คั่วมาเป็นอย่างดี กับน้ำร้อน ภายใต้ความดัน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นการใช้แรงดันไอน้ำผ่านไปที่เมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้ espresso ออกมาเป็นหยดๆ อย่างที่เราเห็นในเครื่องทำกาแฟ ซึ่งคนที่คิดเครื่องทำกาแฟแบบนี้ก็คือคนอิตาลี Luigi Bezzera กาแฟ espresso ที่ได้จากเครื่องชงกาแฟ เค้าจะนับกันเป็น shot ก็คือเป็นแก้วเล็กๆ ที่เค้าไว้ใส่กาแฟนั่นเอง 1 shot จะเท่ากับ 1 ounce หรือ 30 มิลลิลิตร ที่ต้องเป็นแก้วเล็กก็เพราะกาแฟที่ได้จากวิธีนี้จะเป็นกาแฟที่มีความเข้มข้นสูง และก็มีคาเฟอีนสูงด้วย กินแค่แก้วเล็กๆ นี่ก็คงตาค้างไปหลายชั่วโมง และ espresso นี่เองที่เค้าใช้เป็นพื้นฐานในการทำกาแฟอื่นๆ ต่อไป

latte มาจากภาษาอิตาลี caffelatte ซึ่งแปลว่า กาแฟกับนม latte เป็นการนำกาแฟ espresso ใส่เข้าไปในแก้วที่มีนมร้อนๆ อยู่ โดยมีสัดส่วนของ espresso 1/3 และ นม 2/3 หลังจากนั้นก็เติมฟองนมด้านบนประมาณ 5 มิลลิเมตร หรือประมาณ 1/4 นิ้ว ส่วน cappucino ก็คล้ายๆ กับ latte แต่ต่างกันกันที่ cappucino จะใส่ฟองนมที่หนากว่า ซึ่งตามใน wikipedia อ้างว่าหนาประมาณ 2 เซนติเมตร หรือประมาณ 3/4 นิ้ว ซึ่งไอ้ฟองนมหนาๆ นี่เองที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับ cappucino และ barista ก็จะใช้ฟองนมในใช้สร้างรูปภาพต่างๆ ในอิตาลีเองมีการทำ cappuccino เวอร์ชั่นเย็นด้วย เรียกว่า Cappucino Freddo ซึ่งจะใส่ฟองนมเพียงเล็กน้อย แต่ว่าไม่ใส่น้ำแข็ง แต่หลังจากแพร่หลายออกไป iced cappucino ที่ไม่มีฟองน้ำก็ถูกเรียกแตกต่างกันไป เช่นที่ Starbucks จะเรียกว่า iced latte (ความเห็นผู้เขียน: อาจจะเนื่องจากไม่มีฟองนมอันเป็นเอกลักษณ์ของ cappucino ละมั้งทำให้คนไม่เรียกกัน)

เมนูถัดมาก็คือ caffe macchiato คำว่า Macchiato แปลว่า stained (ทำให้เปื้อน เปรอะ) ซึ่งหมายถึง espresso ที่ใส่นมเพียงนิดเดียว แต่ต่อมามีการใส่ฟองนมลงไปด้วยนิดหน่อย เนื่องจาก barista ต้องการให้พนักงานเสริฟไม่สับสนระหว่าง espresso และ Caffe machiato และเป็นที่มาที่ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่า Macchiato แปลว่า ฟอง และต่อมาได้นำมาใช้ในเมนู latte macchiato ซึ่งหมายถึง นมที่ใส่ espresso นิดเดียว หรือประมาณ 1/2 shot ใน Starbucks ก็จะมีเมนู caramel macchiato ซึ่งเป็นการเอา vanilla-flavored syrup (น้ำเชื่อมรสวนิลา) ผสมกับนม และเติม espresso ลงไป และเติมด้วย caramel อีกที (caramel เป็นการใช้น้ำตาลละลายกับเนย และนม จะเป็นสีน้ำตาลไหม้)

เมนูสุดท้ายฮับ cafe mocha เมนูนี้น่าจะเป็นเมนูคุ้นเคยของใครหลายคน mocha ก็คือ latte นะเอง คือ espresso 1/3 นม 2/3 แต่ว่าจะใส่ chocolate ลงไปด้วย ซึ่งอาจจะเป็น ผงช็อคโกแลต หรือว่าเป็นน้ำ ก็แล้วแต่สูตร ซึ่งบางทีก็ใส่ ฟองนมข้างบน หรือบางทีก็อาจจะใส่ whipped cream (whip แปลว่า หวด หรือตวัด เป็นการตีครีมอย่างแรงเพื่อให้เกินเป็นฟองอากาศข้างใน)

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเมนูกาแฟที่คนรู้จักทั่วไป อาจจะไม่ได้ความรู้ภาษาอังกฤษเท่าไร แต่สำหรับคนที่ไปเมืองนอกแล้ว อาจจะช่วยให้การสั่งกาแฟง่ายขึ้นบ้างนะค่ะ


Reference:
Coffee vocabulary
Espresso - Wikipedia
Latte - Wikipedia
Cappucino - Wikipedia
Cafe macchiato - Wikipedia
Latte macchiato - Wikipedia
Cafe mocha - Wikipedia

No comments:

Post a Comment